
สมุนไพร ถือเป็นพืชและยาที่ให้สรรพคุณหลากหลายและอยู่คู่กับคนไทยมานาน เราสามารถนำสมุนไพรมาประกอบอาหารและนำมาทำเป็นยาเพื่อช่วยรักษาให้เราห่างไกลจากโรคมะเร็งได้เช่นกัน ในบทความนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ 10 สมุนไพรไทย ที่มีฤทธิ์ช่วยต้านมะเร็ง หาง่าย ใกล้ตัว จะมีอะไรบ้าง สามารถติดตามได้จากบทความนี้เลย!
ข้อแนะนำจากผู้เขียน:
บทความนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำทางการแพทย์ การใช้สมุนไพรควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีอาการแพ้หรือมีข้อห้ามในการใช้สมุนไพรบางชนิด การรับประทานสมุนไพรในปริมาณที่มากเกินไปอาจมีผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ สมุนไพรควรใช้เป็นส่วนเสริมในการดูแลสุขภาพ และไม่ควรแทนที่การรักษาหรือคำแนะนำทางการแพทย์
1. ขิง

ขิง คือ สมุนไพรที่ช่วยป้องกันโรคภัยต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุม เพราะขิงมีสารเบต้าแคโรทีนที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งอีกหนึ่งสารก่อมะเร็ง ซึ่งเบต้าแคโรทีนจะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง อีกทั้งยังช่วยลดอาการและผลข้างเคียงจากสารเคมีที่ใช้ในการรักษามะเร็งได้เช่นเดียวกัน โดยงานวิจัยเผยว่า สาร 6-shogaol ที่พบในขิงยังช่วยยับยั้งการเกิดก้อนเนื้อของมะเร็งเต้านมอีกด้วย
2. ข่า

ข่า ถือเป็นพืชกลุ่มเดียวกับขิง แต่มีสารต้านมะเร็งที่แตกต่างกันออกไป ข่ามีสารยูจีนอลจากเหง้าข่า มีฤทธิ์ขับน้ำดี ช่วยบรรเทาอาการอาหารไม่ย่อย แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลมในลำไส้ อีกทั้งยังช่วยเรื่องลดการอักเสบและยับยั้งแผลในกระเพาะอาหาร ซึ่งอาจเป็นต้นเหตุของโรคมะเร็งลำไส้หรือมะเร็งกระเพาะอาหาร
3. พริกไทย

สารฟีนอลิกส์ในพริกไทยมีสรรพคุณในการช่วยลดอาการอักเสบได้เป็นอย่างดี ช่วยสามารถเร่งให้ตับทำลายสารพิษมากขึ้น นอกจากนี้สารพิเพอรีนในพริกไทยดำยังมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เซลล์เกิดการอักเสบและอาจนำไปสู่การเกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคมะเร็ง ดังนั้นหากเรานำพริกไทยไปเป็นผสมของมื้ออาหารก็อาจช่วยป้องกันหรือชะลอการอักเสบของเซลล์ที่อาจส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพเหล่านี้ได้
4. ตะไคร้

ตะไคร้ สมุนไพรที่อยู่คู่ครัวไทยมาโดยตลอด ตะไคร้มีสารอาหารสำคัญหลายชนิด หนึ่งในนั้นคือช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งในร่างกาย โดยเฉพาะมะเร็งผิวหนัง นอกจากนี้ ตะไคร้ ยังช่วยในเรื่องระบบย่อยอาหาร ลดแก๊สในลำไส้ ลดอาการท้องอืด ช่วยขับลม และยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ทำให้เกิดท้องเสียได้อีกด้วย
5. กระชาย

กระชาย หรือ วงการแพทย์แผนไทยเรียกว่า “โสมไทย” มีสรรพคุณในเรื่องการขับลม ล้างสารพิษในร่างกาย และรักษาอาการจุกเสียด โดยสามารถรับประทานได้ยังส่วนรากและเหง้าของกระชาย โดยรากจะช่วยในเรื่อง แก้ร้อนใน บำรุงธาตุ และถอนพิษต่าง ๆ ส่วนเหง้าจะช่วยรักษาอาการจุกเสียด แน่นท้อง ท้องเฟ้อ และหากนำมาคั้นเป็นน้ำกระชายก็จะช่วยเรื่องลดการบีบตัวและอักเสบของลำไส้ อันเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคมะเร็งลำไส้
6. มะกรูด

มะกรูด เป็นอีกหนึ่งสมุนไพรในครัวไทยที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เราสามารถนำส่วนต่าง ๆ ของมะกรูดมาประกอบอาหารได้หลายประเภท ใบมะกรูดอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีนที่มีสรรพคุณในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง หรือหากนำผิวมะกรูดมาฝานบาง ๆ ชงกับน้ำเดือดและเติมการบูรเล็กน้อยก็จะช่วยในเรื่องขับลมในลำไส้ แก้อาการจุกเสียดได้
7. ฟ้าทะลายโจร

อีกหนึ่งสมุนไพรไทยที่ได้ยินชื่อกันมานาน สารสกัดจากฟ้าทะลายโจร มีฤทธิ์ในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันและยับยั้งเซลล์มะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งช่องปาก นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่ได้ค้นพบสรรพคุณเด่นของฟ้าทะลายโจรซึ่งมีสารสำคัญที่สามารถฆ่าเซลล์มะเร็งปากมดลูก และต้านไวรัสเชื้อเริมได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม การรับประทานฟ้าทะลายโจรเกินขนาดก็สามารถส่งผลข้างเคียงให้กับร่างกายได้เช่นเดียวกัน เช่น ตับอักเสบ ความดันโลหิตต่ำ ดังนั้น หากคุณต้องการรับประทานฟ้าทะลายโจร ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำก่อนประทานยาทุกครั้ง
8. ชาเขียว

ชาเขียวมีสาร คาเทชิน (Catechins) โดยเฉพาะสาร EGCG (Epigallocatechin gallate) ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่สูง นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยศึกษาในหลอดทดลอง พบว่า สารโพลีฟีนอล (Polyphenols) ในชาเขียวมีผลช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งตับอ่อน และรวมไปถึงมะเร็งเต้านม อย่างไรก็ตามยังไม่มีงานวิจัยศึกษาในคนถึงชนิดของยา เราจึงยังไม่ทราบความปลอดภัยในระยะยาว
9. มะขามป้อม

มะขามป้อม เป็นสมุนไพรที่มีรสชาติเปรี้ยวซึ่งอุดมไปด้วยสารพฤษศาสตร์ต่าง ๆ เช่น แทนนิน ฟลาโว- นอยด์ อัลคาลอยด์ ไตรเทอร์พีน ซาโปนิน สเตอรอล ฟีนิลโพรพานอยด์ และฟีนอล เป็นต้น โดยงานวิจัยรายงานว่ามะขามป้อมมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย และช่วยยับยั้งการเกิดโรคมะเร็งในระยะที่หนึ่งได้
10. ขมิ้น

ขมิ้นมีสรรพคุณในการต้านการอักเสบชนิดรุนแรงที่สามารถนำไปสู่การเกิดโรคมะเร็งได้ โดยขมิ้นช่วยฆ่าเซลล์มะเร็งได้หลายชนิด เช่น มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้เล็ก มะเร็งลำไส้ใหญ่ นอกจากนี้ ขมิ้น ยังช่วยลดขนาดของเนื้องอกในมดลูกได้เช่นเดียวกัน
สรุป
สมุนไพรเป็นทางเลือกธรรมชาติที่มีประโยชน์ในการป้องกันและยับยั้งมะเร็ง การใช้สมุนไพรอย่างเหมาะสมและถูกต้องสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งและช่วยเสริมสร้างสุขภาพที่ดีได้ การศึกษาสรรพคุณและการใช้สมุนไพรอย่างถูกวิธีและอยู่ในคำแนะนำของแพทย์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรศึกษา เพื่อให้เรามีสุขภาพร่างกายที่แข็ง ไม่เพียงแต่ห่างไกลจากโรคมะเร็งเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เราห่างไกลจากโรคอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน
References
- https://pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/128/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%87/
- https://www.roojai.com/article/health-guide/thai-herbs-fight-cancer/
- https://pharmacy.su.ac.th/herbmed/herb/text/herb_detail.php?herbID=56#:~:text=%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%A1%20%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%9F%E0%B8%81%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%B3,%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81%20%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B8
- https://www.hfocus.org/content/2017/08/14475