รู้หรือไม่ การรับประทานอาหารที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการดูแลสุขภาพร่างกายของเรา อาหารไม่เพียงแต่ให้พลังงานที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิต แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรค และช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยมะเร็งที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ การรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสามารถช่วยให้ร่างกายรับมือกับการรักษา เช่น การทำเคมีบำบัด หรือการฉายแสงได้ดียิ่งขึ้น
จากสถิติโรคมะเร็งในประเทศไทย เปิดเผยโดยรัฐมนตรีการกระทรวงสาธารณสุข ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 พบว่า โรคมะเร็งในประเทศไทยถือเป็นปัญหาสำคัญของสาธารณสุข โดยมีผู้ป่วยรายใหม่ปีละประมาณ 140,000 คน และมีจำนวนผู้เสียชีวิตประมาณ 80,000 คนต่อปี
ซึ่งผู้ป่วยก็จะได้รับการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น การฉายแสง การให้สารเคมีบำบัด หรือรวมไปถึงการผ่าตัด อย่างไรก็ตาม ลำพังการรักษาด้วยเคมีบำบัดหรือการฉายแสงนั้นอาจจะส่งผลข้างเคียงให้กับผู้ป่วยขณะรักษา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาการเบื่ออาหาร ดังนั้น เราจึงควรเลือกรับประทานอาหารที่ดี ตรงตามหลักโภชนาการ เพื่อจะได้ช่วยส่งผลให้ร่างกายของเราสร้างภูมิคุ้มกันได้ดีมากยิ่งขึ้น วันนี้เรามาแนะนำไอเดียการเลือกรับประทานและสร้างสรรค์เมนูอาหารสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง เพื่อให้กระตุ้นความอยากอาหารและพัฒนาร่างกายให้แข็งแรงสมบูรณ์ จะมีอาหารประเภทใด เมนูอะไรบ้างนั้น ไปดูกัน!
การเลือกรับประทานอาหารที่ถูกหลักโภชนาการสำหรับผู้ป่วยมะเร็งสำคัญอย่างไร?
Photo by Farhad Ibrahimzade on Unsplash
การเลือกรับประทานอาหารที่ดีก็เปรียบเสมือนร่างกายได้รับการบำบัดที่ดีจากธรรมชาติ เพราะถ้าหากเราเลือกทานอาหารที่ครบ 5 หมู่ และถูกต้อง อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมก็จะช่วยให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูจากโรคมะเร็งได้เร็วขึ้น เพราะทุกครั้งที่เราเข้ารับการรักษาด้วยวิธีเคมีบำบัด หรือ การฉายแสง ร่างกายของเราก็จะสูญเสียเซลล์ที่ดีไปด้วย ดังนั้นการเตรียมร่างกายให้แข็งแรงก่อนการรักษาจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยส่งเสริมการรักษาได้ดียิ่งขึ้น
ปัจจัยสำคัญในการเลือกรับประทานอาหารสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง
- สารอาหารที่จำเป็น การเลือกรับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนและหลากหลาย เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน และแร่ธาตุ มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง
- การบริโภคอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ สารต้านอนุมูลอิสระช่วยลดความเสียหายของเซลล์และลดการอักเสบในร่างกาย
- การหลีกเลี่ยงอาหารที่มีสารก่อมะเร็ง อาหารบางประเภทอาจมีสารก่อมะเร็ง เช่น เนื้อสัตว์แปรรูป หรืออาหารที่ผ่านการทอดในน้ำมันซ้ำ ๆ
แนะนำ 10 เมนูอาหารผู้ป่วยมะเร็ง ควรกิน
Photo by Gareth Hubbard on Unsplash
การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยมะเร็งสามารถช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและช่วยลดผลข้างเคียงจากการรักษาได้ นี่คือ 10 เมนูอาหารที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง ได้แก่
1. สลัดผักโขมกับอโวคาโดและเมล็ดเจีย
- ผักโขมมีธาตุเหล็กและวิตามินเค ส่วนอโวคาโดมีไขมันดีและวิตามินอี เมล็ดเจียมีโอเมก้า-3 และไฟเบอร์
- การผสมผักโขม อโวคาโด และเมล็ดเจียช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและสุขภาพหัวใจ
2. ซุปถั่วเลนทิลกับผักต่าง ๆ
- ถั่วเลนทิลมีโปรตีนจากพืชและไฟเบอร์สูง ผักต่าง ๆ เช่น แครอท เซเลอรี่ และมะเขือเทศเพิ่มวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระ
- ซุปนี้ช่วยเสริมสร้างระบบย่อยอาหารและลดการอักเสบ
3. ข้าวกล้องกับปลาแซลมอนและผักผัดน้ำมันมะกอก
- ข้าวกล้องมีไฟเบอร์และวิตามินบี ปลาแซลมอนมีโอเมก้า-3 และโปรตีนคุณภาพสูง ผักผัดน้ำมันมะกอกมีสารต้านอนุมูลอิสระ
- เมนูนี้ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและสุขภาพหัวใจ
4. โจ๊กข้าวโอ๊ตกับนมถั่วเหลืองและผลไม้สด
- ข้าวโอ๊ตมีไฟเบอร์และสารต้านอนุมูลอิสระ นมถั่วเหลืองมีโปรตีนจากพืช ผลไม้สดเช่น บลูเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ เพิ่มวิตามินซี
- โจ๊กช่วยเสริมสร้างระบบย่อยอาหารและลดการอักเสบ
5. ไก่ย่างกับควินัวและผักย่าง
- ไก่มีโปรตีนคุณภาพสูง ควินัวมีไฟเบอร์และโปรตีนจากพืช ผักย่างเช่น พริกหวาน บรอกโคลี มีสารต้านอนุมูลอิสระ
- เมนูนี้ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและระบบภูมิคุ้มกัน
6. แกงขมิ้นชันกับผักต่าง ๆ และข้าวกล้อง
- ขมิ้นชันมีสารต้านการอักเสบ ผักต่าง ๆ เพิ่มวิตามินและแร่ธาตุ ข้าวกล้องมีไฟเบอร์สูง
- แกงขมิ้นชันจะช่วยลดการอักเสบและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
7. สลัดถั่วลูกไก่กับผักสดและน้ำมันมะกอก
- ถั่วลูกไก่มีโปรตีนจากพืชและไฟเบอร์ ผักสดเช่น ผักกาดหอม มะเขือเทศ มีวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระ
- สลัดจะช่วยเสริมสร้างระบบย่อยอาหารและสุขภาพหัวใจ
8. น้ำพริกหนุ่มกับผักสดและข้าวเหนียวดำ
- น้ำพริกหนุ่มมีสารต้านอนุมูลอิสระ ผักสดเพิ่มวิตามิน ข้าวเหนียวดำมีไฟเบอร์และธาตุเหล็ก
- เมนูนี้ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและระบบย่อยอาหาร
9. ต้มจืดเต้าหู้กับผักต่าง ๆ
- เต้าหู้มีโปรตีนจากพืช ผักต่าง ๆ เช่น ผักกาดขาว แครอท มีวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระ
- ต้มจืดช่วยเสริมสร้างระบบย่อยอาหารและลดการอักเสบ
10. ข้าวไรซ์เบอร์รี่กับไข่ต้มและผักผัดน้ำมันมะกอก
- ข้าวไรซ์เบอร์รี่มีไฟเบอร์และสารต้านอนุมูลอิสระ ไข่ต้มมีโปรตีนคุณภาพสูง ผักผัดน้ำมันมะกอกเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ
- เมนูนี้ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและสุขภาพหัวใจ
เตือน 5 อาหารที่ผู้ป่วยมะเร็งไม่ควรรับประทาน
Photo by Joshua Hoehne on Unsplash
การหลีกเลี่ยงอาหารบางชนิดที่อาจมีผลเสียต่อสุขภาพ และการรักษาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง ซึ่งอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่
- อาหารที่มีสารก่อมะเร็ง: เช่น เนื้อสัตว์แปรรูป เนื้อแดงที่ผ่านการปรุงในอุณหภูมิสูง เช่น การย่างหรือการทอดในน้ำมันซ้ำ ๆ
- อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง: เช่น อาหารทอด ขนมหวานที่มีไขมันทรานส์ หรืออาหารจานด่วน
- อาหารที่มีน้ำตาลสูง: น้ำตาลที่มากเกินไปอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นและมีผลเสียต่อการรักษามะเร็ง
- อาหารที่มีเกลือสูง: การบริโภคเกลือมากเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์: การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งและมีผลเสียต่อการรักษา
วิธีปรับการกิน เมื่อเกิดอาการข้างเคียงจากการรักษามะเร็ง
Photo by Jason Briscoe on Unsplash
เนื่องจากการรักษาด้วยการทำเคมีบำบัด ฉายรังสี หรือรวมไปถึงการผ่าตัด อาจส่งผลให้ผู้ป่วยมะเร็งมีผลข้างเคียงจากการรักษา เช่น อาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้ ท้องเสีย ปากแห้ง และอื่น ๆ วันนี้ เรามีวิธีรับมือกับอาการเหล่านี้มาแนะนำเพื่อให้ผู้ป่วยได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและสร้างเซลล์ที่ดีให้ร่างกาย จะมีวิธีใดบ้าง ไปดูกัน…
- เบื่ออาหาร
ควรเลือกอาหารที่ผู้ป่วยสามารถรับประทานได้ง่าย เช่น กลิ่นไม่แรง รสไม่จัด อาหารอ่อน ๆ หรืออาหารที่เย็น ๆ เช่น โยเกิร์ต นมปั่น
- อาเจียน
เมื่อมีอาการอาเจียน ควรรับประทานอาหารชนิดเหลวใสทุก 10-15 นาที หลังจากอาเจียน เช่น น้ำซุปใส น้ำหวาน หรือน้ำผลไม้สด หรือใช้ยาลดการอาเจียนควบคู่ไปด้วย
- คลื่นไส้
อาการคลื่นไส้ควรให้ผู้ป่วยกินอาหารก่อนให้ยาเคมีบำบัด ไม่ควรรับประทานอาหารที่มีปริมาณน้ำมันเยอะ ๆ และมีกลิ่นฉุน ควรเลือกทานอาหารแห้ง ประเภทแครกเกอร์ ขนมปังกรอบ อาหารไม่ปรุงรส มีรสหวานตามธรรมชาติ ไม่ใส่เครื่องเทศ
- อ่อนเพลีย
หากเกิดอาการอ่อนเพลีย ควรทานอาหารอ่อน ๆ เคี้ยวน้อยที่สุด พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่เป็นประเภทของเหลวจะช่วยได้
- ท้องเสีย
แนะนำให้ผู้ป่วยดื่มน้ำให้เพียงพอ เสริมเครื่องดื่มเกลือแร่ งดการดื่มนมและผลิตภัณฑ์จากนมประมาณ 1 สัปดาห์ หรือจนกว่าอาการท้องเสียจะดีขึ้น และงดอาหารที่ทำให้เกิดแก๊ส เช่น ถั่วเมล็ดแห้ง น้ำอัดลม เป็นต้น
- ท้องผูก
การรับประทานอาหารประเภทกากใยที่มีปริมาณ 25-35 กรัมต่อวัน เช่น กินผัก ผลไม้ ธัญพืชเมล็ดต่าง ๆ และดื่มน้ำ 8-10 แก้ว แนะนำน้ำลูกพรุน น้ำผลไม้อุ่น ๆ หมั่นเดินออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น
- น้ำหนักลดมากจนเกินไป
เน้นอาหารประเภทโปรตีนและเพิ่มแคลอรี่ในปริมาณที่เหมาะสม รับประทานไขมันดีต่อสุขภาพ
- การรับรสเปลี่ยน
เมื่อเกิดผลข้างเคียงเรื่องการรับรสเปลี่ยน ควรกลั้วคอหรือลิ้นก่อนรับประทานอาหาร ใช้น้ำมะนาวช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพในการรับรสของลิ้น
- มีแผลในช่องปาก
เมื่อเกิดอาการเจ็บปากหรือลิ้น ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่เป็นกรดหรือเปรี้ยว เช่น เครื่องเทศ เผ็ดร้อน อาหารเค็ม อาหารหยาบแข็ง ระวังอาการเลือดออกในช่องปาก รับประทานอาหารที่เคี้ยวง่าย อาทิ ข้าวต้ม โจ๊ก กล้วยสุก แตงโม ข้าวโอ๊ต เป็นต้น
สรุป
การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีผลสำคัญต่อการรักษาและการฟื้นตัวของผู้ป่วยมะเร็ง การรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ โปรตีนคุณภาพสูง และอาหารที่มีสารต้านการอักเสบจะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและลดการอักเสบในร่างกาย นอกจากนี้ยังควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีสารก่อมะเร็ง ไขมันอิ่มตัวสูง น้ำตาลสูง และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันผลเสียที่อาจเกิดขึ้นต่อสุขภาพและการรักษา
การดูแลสุขภาพด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้ผู้ป่วยมะเร็งมีโอกาสฟื้นตัวและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ข้อแนะนำดังกล่าวข้างต้นเป็นเพียงแนวทางในการดูแลสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางโภชนาการสำหรับคำแนะนำเพิ่มเติมที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
References:
- https://www.chulacancer.net/health-tips-view.php?id=579
- https://www.vibhavadi.com/Health-expert/detail/611
- https://www.vimut.com/article/food-for-cancer-patients
- https://www.navavej.com/articles/18989